34-ที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ สิ่งเล็ก ๆ ที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม

“ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์” เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มทัศนวิสัยให้กับผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกหรือหมอกลงจัด อย่างไรก็ตามหลายคนมักละเลยการดูแลและเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน จนทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานตามมา 

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการดูแลและการเลือกซื้อที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ที่เหมาะสม พร้อมข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานที่ปัดน้ำฝนอย่างถูกวิธี

ที่ปัดน้ำฝนคืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

ที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนกระจกหน้ารถ มีหน้าที่ปัดน้ำฝน ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนกระจกออกไป เพื่อให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยที่ชัดเจน การมีที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ที่ใช้งานได้ดีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อขับรถในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตกหนักหรือมีหมอกลง และแน่นอนว่าหากที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเนื่องจากทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจนได้ เพราะฉะนั้นที่ปัดน้ำฝนรถยนต์จึงถือเป็นหนึ่งในฮีโร่ที่ช่วยดูแลความปลอดภัยขณะใช้รถใช้ถนนนั่นเอง

ประเภทของที่ปัดน้ำฝนรถยนต์

  1. ที่ปัดน้ำฝนแบบแข็ง (Conventional Wiper Blades)
    เป็นแบบที่พบได้บ่อยที่สุด มีโครงสร้างเป็นเหล็กที่ช่วยกดใบปัดน้ำฝนลงบนกระจก เหมาะกับรถรุ่นเก่า เช่น ที่ปัดน้ำฝน Vios รุ่นเก่า เป็นต้น
  2. ที่ปัดน้ำฝนแบบยืดหยุ่น (Flat Wiper Blades)
    ใบปัดแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้ดีในทุกสภาพอากาศ และมีความคงทนกว่าแบบแข็ง เนื่องจากสามารถกระจายน้ำหนักได้ดี ช่วยให้กระจกสะอาดมากยิ่งขึ้น
  3. ที่ปัดน้ำฝนแบบไฮบริด (Hybrid Wiper Blades)
    ผสมผสานระหว่างแบบแข็งและแบบยืดหยุ่น มีโครงสร้างที่แข็งแรงและให้ประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝนที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ

เคล็ดลับการเลือกที่ปัดน้ำฝนให้เหมาะสม

  • เลือกตามขนาดที่เหมาะสม: ก่อนซื้อที่ปัดน้ำฝนใหม่ ควรวัดขนาดของใบปัดให้ตรงกับรุ่นรถของคุณ เช่น ที่ปัดน้ำฝน Vios ก็จะมีขนาดเฉพาะที่เหมาะกับกระจกรถยนต์
  • เลือกวัสดุที่ทนทาน: ควรเลือกที่ปัดน้ำฝนที่ทำจากวัสดุที่มีความทนทาน เช่น ที่ปัดน้ำฝน 3M ที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพสูง
  • ตรวจสอบราคาก่อนซื้อ: ที่ปัดน้ำฝนมีราคาที่อาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและคุณภาพ ควรเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งที่ปัดน้ำฝนราคาย่อมเยาก็มีให้เลือกสรรมากมายตามท้องตลาด

วิธีการดูแลรักษาที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

  1. ตรวจสอบสภาพใบปัดน้ำฝนเป็นประจำ
    หากพบว่าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือไม่สามารถปัดน้ำฝนได้สะอาด ควรเปลี่ยนทันที เพราะใบปัดน้ำฝนที่เก่าและแข็งอาจทำให้กระจกเกิดรอยขีดข่วนได้
  2. ทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน
    ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดใบปัดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นที่อาจเกาะอยู่ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของที่ปัดน้ำฝน
  3. หลีกเลี่ยงการใช้งานที่ปัดน้ำฝนในขณะที่กระจกแห้ง
    การเปิดที่ปัดน้ำฝนขณะที่กระจกแห้งอาจทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงควรฉีดน้ำล้างกระจกก่อนปัดทุกครั้ง

ขั้นตอนการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนด้วยตัวเอง

  1. ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น
    ยกแขนที่ปัดน้ำฝนขึ้นให้ตั้งตรงเพื่อให้ง่ายต่อการถอดใบปัดน้ำฝนเก่าออก
  2. ถอดใบปัดน้ำฝนเก่าออก
    กดคลิปล็อกเพื่อปลดใบปัดน้ำฝนออกจากแขน จากนั้นถอดใบปัดเก่าออก
  3. ติดตั้งใบปัดน้ำฝนใหม่
    นำใบปัดใหม่มาใส่เข้าไปที่แขนของที่ปัดน้ำฝน ตรวจสอบให้แน่นหนา
  4. ทดลองใช้งาน
    หลังจากเปลี่ยนใบปัดแล้ว ควรเปิดใช้งานเพื่อตรวจสอบว่าที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ

สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน

  • ปัดแล้วกระจกเป็นรอยหรือไม่สะอาด
  • เสียงดังขณะปัดน้ำฝน
  • ใบปัดแข็งและแตกหักง่าย
  • น้ำฝนไม่ถูกปัดออกจากกระจกอย่างทั่วถึง

หากพบอาการที่กล่าวมาเหล่านี้ คุณควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ทันที เพราะนี่หมายถึงอาการของที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ที่เสื่อมสภาพแล้ว จึงควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

 

การดูแลรักษาที่ปัดน้ำฝนรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะมีผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนัก การมีที่ปัดน้ำฝนที่ใช้งานได้ดีจะช่วยให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาที่ปัดน้ำฝนคุณภาพสูง ก็สามารถลองพิจารณาที่ปัดน้ำฝน 3M ได้ แต่ถ้าหากกำลังมองหารถมือสองคุณภาพดี ให้นึกถึง CarEx ที่มีรถยนต์มือสองหลากหลายรุ่น พร้อมมีการให้บริการที่ครบวงจรด้านการซื้อขายรถยนต์มือสอง เราพร้อมให้คำแนะนำในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่ตรงใจคุณอย่างเต็มที่ การันตีในมาตรฐาน