สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อรถมือสองมาหมาด ๆ คำถามที่พบบ่อยคือ “ควรทำประกันรถยนต์สำหรับรถมือสองหรือไม่?” และ “ควรเลือกประกันรถมือสองแบบไหนดี?” การทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณอุ่นใจในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายต่าง ๆ บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่ารถมือสองควรทำประกันรถยนต์หรือไม่ และควรเลือกประกันประเภทไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด!
รถมือสองควรทำประกันรถยนต์ไหม เพราะอะไร?
การซื้อประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่สำหรับรถใหม่เท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับรถมือสองอย่างมากเลยด้วย เนื่องจากการใช้รถมือสองอาจมีความเสี่ยงมากกว่ารถใหม่ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้
1. ลดความเสี่ยงทางการเงิน
การซื้อประกันรถมือสองสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้ รสมถึงการซ่อมแซมรถยนต์ที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง การมีประกันรถมือสองจะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ไปได้มาก
2. คุ้มครองบุคคลภายนอก
การทำประกันรถยนต์ยังช่วยให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอกในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ด้วย เช่น การรักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บ ทำให้คุณไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง
3. ความอุ่นใจในการใช้งาน
การมีประกันรถมือสองช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนท้องถนนได้อย่างมาก เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิด คุณจะได้รับการคุ้มครองและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทำให้สบายใจในการใช้รถใช้ถนนไปได้มากนั่นเอง
ประเภทของประกันรถยนต์มือสองแบบไหนเหมาะสมที่สุด?
การเลือกประกันรถมือสองขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุของรถ การใช้งาน และงบประมาณของคุณ ซึ่งก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่าประกันรถยนต์มีแบบไหนบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร โดยประกันรถยนต์มีหลายประเภท ดังนี้
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1
โดยปกติแล้วบริษัทประกันจะพิจารณารับรถที่มีอายุไม่เกิน 3 – 5 ปี หากรถมือสองของคุณตรงตามเงื่อนไขนี้ ก็สามารถซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ หรือหากรถมือสองที่คุณซื้อมามีประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่แล้วก็สามารถทำการต่อประกันรถมือสองได้เช่นกัน
- ความคุ้มครอง: ครอบคลุมทุกกรณี ทั้งอุบัติเหตุ การชน ความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงการสูญหายของรถ
- เหมาะสำหรับ: รถมือสองที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือรถที่มีราคาสูง เนื่องจากช่วยคุ้มครองความเสียหายทั้งจากอุบัติเหตุและการถูกขโมย
- ข้อดี: ให้ความคุ้มครองสูงสุดและลดความเสี่ยงในการซ่อมบำรุง
- คำแนะนำ: หากคุณเพิ่งซื้อรถมือสองที่ยังใหม่อยู่ การเลือกซื้อประกันรถยนต์ ชั้น 1 ถือเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด
2. ประกันรถยนต์ 2+
สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ นี้จะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่เบี้ยประกันจะถูกกว่า และไม่ว่ารถมือสองของคุณจะมีอายุเท่าไหร่ ก็สามารถซื้อได้หมดไม่จำกัดปีรถ
- ความคุ้มครอง: คล้ายกับประกันชั้น 1 แต่จะไม่ครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้หรือน้ำท่วม ให้ความคุ้มครองในกรณีชนกับยานพาหนะเท่านั้น
- เหมาะสำหรับ: รถมือสองที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป และใช้งานในเมืองที่มีความเสี่ยงต่ำ
- ข้อดี: ค่าเบี้ยประกันถูกกว่า แต่ยังคงมีความคุ้มครองที่เพียงพอสำหรับรถที่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก
- คำแนะนำ: หากคุณมีงบประมาณจำกัด การเลือกประกันรถยนต์ 2+ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างมาก
3. ประกันรถยนต์ 3+
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ นี้ จะเหมาะมากสำหรับรถมือสองที่มีอายุมาก หรือ 4 – 15 ปีขึ้นไป ที่สำคัญคือค่าเบี้ยประกันรถมือสองไม่แพง
- ความคุ้มครอง: ให้ความคุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะเท่านั้น ไม่รวมถึงการสูญหายหรือไฟไหม้
- เหมาะสำหรับ: รถมือสองที่มีอายุค่อนข้างมาก หรือรถที่มีมูลค่าไม่สูง
- ข้อดี: ค่าเบี้ยประกันต่ำ แต่ยังคงให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- คำแนะนำ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังต้องการความคุ้มครองพื้นฐาน
วิธีการเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถมือสอง
1. พิจารณาสภาพและอายุของรถมือสอง
- หากรถมือสองที่คุณซื้อมีอายุการใช้งานน้อยกว่า 5 ปี ควรเลือกประกันชั้น 1 หรือ 2+ เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ช่วยให้สบายใจในการขับขี่มากขึ้น
- หากรถมีอายุมากกว่า 5 ปี ประกันชั้น 3+ อาจจะเพียงพอสำหรับการครอบคลุมขั้นพื้นฐานและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ตรวจสอบงบประมาณของคุณ
- การเลือกทำประกันรถมือสองที่เหมาะสมควรคำนึงถึงงบประมาณของคุณด้วย แต่หากคุณสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ได้ การลงทุนในความคุ้มครองที่สูงกว่าก็ถือว่ายังคุ้มค่าอยู่
3. ศึกษาบริษัทประกันและความคุ้มครอง
- การเลือกบริษัทประกันรถมือสองที่น่าเชื่อถือสำคัญมาก ควรเลือกบริษัทที่มีรีวิวดีและบริการที่รวดเร็ว เช่น การเคลมประกันและการซ่อมบำรุง
- อ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการ
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำประกันรถยนต์สำหรับรถมือสอง
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาทะเบียนรถ
- เอกสารการต่อประกันครั้งก่อน (ถ้ามี)
- กรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิม (กรณีต่อประกัน)
รถมือสองจำเป็นต้องทำประกันรถยนต์จริงหรือ?
คำตอบคือ “สมควรทำ” การทำประกันรถมือสองเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองทั้งจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย และปัญหาที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเลือก ซื้อประกันรถยนต์ ชั้น 1, 2+, หรือ 3+ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถและงบประมาณของคุณ ซึ่งสามารถเลือกตามที่ตอบโจทย์กับความต้องการได้เลย
แต่หากคุณกำลังมองหารถมือสองคุณภาพดี ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบการใช้งาน และต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการทำประกันรถยนต์ ที่ CarEx เรามีรถมือสองหลากหลายรุ่นให้เลือกสรร และพร้อมให้บริการครบวงจรในการซื้อขายรถยนต์มือสองที่มีคุณภาพ พร้อมคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่รอให้คำแนะนำ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกการตัดสินใจเลือกรถมือสองที่คุ้มค่าที่สุด นึกถึงรถมือสอง นึกถึง CarEx